สถานการณ์ภัยแล้งในปัจจุบันส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน เนื่องจากในหลายพื้นที่เริ่มขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะพื้นที่ห่างไกลทุรกันดาร ระบบชลประทานหรือระบบประปาและระบบสาธารณูปโภคยังเข้าไม่ถึง ประกอบกับเมื่อเข้าห้วงเดือนมีนาคมหรือเข้าสู่ฤดูร้อน สภาพอากาศของประเทศไทยนั้นจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น ปริมาณน้ำต้นทุนจะเริ่มลดลงและการเกิดภาวะฝนทิ้งช่วง
เป็นเหตุให้สถานการณ์ภัยแล้งขยายวงกว้างมากขึ้น ประชาชนต้องแสวงหาแหล่งน้ำในพื้นที่ห่างไกล และหากเมื่อสถานการณ์รุนแรงขึ้นจะส่งผลกระทบในด้านการเกษตรและระบบนิเวศน์ที่ต้องอาศัยน้ำในการหล่อเลี้ยงอีกด้วย
ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในเรื่องดังกล่าว และถือเป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วน ที่ต้องร่วมกันแก้ไขปัญหา จึงได้ประสานความร่วมมือกันและบูรณาการในการบรรเทาทุกข์ให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ด้วยการระดมศักยภาพและทรัพยากรของแต่ละหน่วยงานเข้าให้การช่วยเหลือโดยพร้อมเพรียงกัน
ภายใต้ “โครงการ ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจ ช่วยภัยแล้ง” ซึ่งได้เริ่มโครงการฯ มาตั้งแต่ปี 2542 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน
ดังนั้น การดำเนินโครงการราษฎร์ รัฐ ร่วมใจ ช่วยภัยแล้ง จะเป็นส่วนหนึ่งในการบรรเทาความเดือดร้อนการขาดแคลนน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค และมีส่วนช่วยในการผลักดันให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาบูรณาการร่วมกัน เพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้งให้หมดสิ้นไป
โดยการสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาลปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำ การขุดลอกแหล่งน้ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการส่งน้ำและระบายน้ำ รวมทั้งกักเก็บน้ำไว้เพื่อการอุปโภคและบริโภค
การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างเป็นระบบ ตลอดจนให้ความสำคัญต่อการรณรงค์ปลูกฝังจิตสำนึกในการอนุรักษ์ และหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติควบคู่ไปด้วย การบูรณาการร่วมกันดังที่กล่าวจะสามารถแก้ไขปัญหาภัยแล้งได้อย่างยั่งยืน